วันอังคารที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2556

ประวัติของ Spongebob.


ประวัติ “Spongebob Squarepants”


ผู้สร้าง : Stephen Hillenburg
สตูดิโอผู้ผลิต : United Plankton Pictures
ประเทศ : สหรัฐอเมริกา
ช่องรายการ : Nickelodeon (เคเบิลทีวี), True Spark (ทรู วิชั่นส์)
เวลาออกอากาศในไทย :
ความยาว : ตอนละ 22 นาที โดยแบ่งเป็นตอนย่อยอีกตอนละ 11 นาที
“Spongebob Squarepants” คือชื่อของฟองน้ำ ซึ่งมีเพื่อนบ้านเป็นปลาหมึก สควิดวอร์ด (Squidward) และเพื่อนสนิทของเจ้าฟองน้ำ เป็นปลาดาว แพ็ททริก (Patrick Star) พวกเขาอาศัยอยู่ในเมืองใต้น้ำแห่ง “Bikini Bottom” ซึ่งเป็นเมืองที่มีลักษณะทางกายภาพเหมือนเมืองทั่วไป มีอาคาร ตึกรามบ้านช่อง มีระบบการคมนาคม มีสนามบิน ฯลฯ จะต่างกันแค่เมืองนี้อยู่ใต้ทะเลเท่านั้นเอง


เจ้าฟองน้ำ บ็อบ มีสัตว์เลี้ยงเป็นของตนเองด้วย เป็นหอยทากน้อย (Gary) ซึ่งเปล่งเสียงร้องคล้ายแมว.. ชีวิตของเขาก็เป็นแบบเรียบง่าย ทำงานเป็นพ่อครัวในภัตตาคารฟาสต์ฟู้ด “Krusty Krab” ร่วมกับปลาหมึกสควิดวอร์ด ที่ทำหน้าที่เป็นพนักงานรับจ่ายเงิน ร้านนี้ผู้เป็นเจ้าของกิจการก็คือ พี่ปูก้ามใหญ่ มิสเตอร์แครบ (Mr. Krabs) ร้านนี้เป็นที่รู้จักกันมาก เสียจนมีร้านคู่แข่ง “Chum Bucket” ที่มี แพลงค์ตอน (Sheldon J. Plankton : “Plankton”) เจ้าของกิจการ จ้องจะขโมยสูตรไปเป็นของตนอยู่ตลอด เนื่องจากร้านของแพลงค์ตอนนี้ไม่เคยมีลูกค้าเลย ทางมิสเตอร์แครบเองก็ใช่ว่าจะพิกเฉยต่อเรื่องนี้ เลยสั่งกับพนักงานของตนทุกคนว่า ให้คอยเก็บรักษาสูตรลับซึ่งถือเป็นสมบัติสำคัญของร้านให้ดี อย่าให้ใครมาขโมยไปได้
แต่ในโลกใต้น้ำนี้ ก็ไม่ได้มีแค่สิ่งมีชีวิตที่เกิดมาเพื่ออาศัยในน้ำเท่านั้น กระรอกสาว แซนดี้ (Sandy Cheeks) คือหนึ่งในนั้น เธออาศัยอยู่ในโดมแก้วใต้น้ำซึ่งเป็นบ้านของเธอ ภูมิลำเนาเดิมของเธอคือที่ Texas ถูกส่งตัวมาที่เมือง Bikini Bottom นี้ โดยคำสั่งของใครคนหนึ่ง (ภายหลังมีการเปิดเผยว่าบอสของเธอเป็นลิงชิมแปนซี ในตอนที่ชื่อ Chimp Ahoy) แซนดี้เป็นหนึ่งในคนที่บ็อบรู้จักด้วย จากการที่บ็อบได้ช่วยชีวิตแซนดี้ให้รอดจากหอยกาบยักษ์จอมตะกละ ทำให้แซนดี้ประทับใจและขอเป็นเพื่อนกับบ็อบในเวลาต่อมา
ชีวิตในแต่ละวัน สปอนจ์บ็อบต้องเผชิญกับหลายๆ อย่างในชีวิตของเขา ซึ่งมีทั้งสุข ทุกข์ เรื่องดีๆ เรื่องเครียดๆ หรือเรื่องไม่เป็นเรื่องต่างๆ เหล่านั้นเป็นสิ่งที่คอยให้ประสบการณ์แก่เขา ให้เขาได้เรียนรู้ และเข้าใจกับคำว่า “ชีวิต” สปอนจ์บ็อบใฝ่ฝันไว้ว่าในอนาคต เขาจะเป็นพ่อครัวมือหนึ่งแห่ง Bikini Bottom ให้ได้

ความเป็นมาของโคนัน.


คุโด้ ชินอิจิ
เกิดวันที่                  : 4 พฤษถาคม
อายุ                        : 16 ปี
ที่อยู่                       : บ้านคุโด ที่เขต 2
สถานศึกษา           : ชั้นม. 5 โรงเรียนมัธยมเทตัน

ความสามารถพิเศษ      : ฟุตบอล การสืบสวนสอบสวน
ความไม่สามารถพิเศษ : ดนตรี การร้องเพลง
สิ่งที่คลั่งไคล้         : เชอร์ล็อค โฮม ( อย่างมากที่สุด )
คนที่แอบหลงรัก    : รัน
                                นักสืบมัธยมปลายอายุ 17 ปี เป็นลูกชายของคุโด้ ยูซากุ และฟุจิมิเนะ ยูกิโกะ พ่อแม่ไปอยู่ที่ LA ส่วนเขาก็อยู่ที่ญี่ปุ่นคนเดียวตั้งแต่อายุ14ป ีชินอิจิเป็นคนฉลาดมีไหวพริบ ช่างสังเกต มีความมั่นใจในตนเองเขามีความสามารถพิเศษหลายอย่างเช่น เล่นฟุตบอล ยิงปืน ขับเฮลิคอปเตอร์ รันเคยบอกว่าถ้าเขาไม่เลิกเล่นฟุตบอลคงได้เป็นนักกีฬาไปแล้ว แต่ชินอิจิบอกว่าต้องการฝึกเพื่อเป็นทักษะของนักสืบเท่านั้น ชินอิจิไม่ชอบลูกเกดแต่ชอบเลมอนพายมากสิ่งที่แย่มากๆก็คือชินอิจร้องเพลงไม่เก่ง        
                                 ชินอิจิ นักสืบมัธยมปลายผู้โด่งดังในฐานะผู้ช่วยตำรวจไขความสว่างในคดีซับซ้อนหลายต่อหลายคดี เติบโตขึ้นมาในบ้านหลังเบ้อเริ่มที่เต็มไปด้วยนิยายนักสืบ มียูซากุ ผู้เป็นพ่อ เป็นนักเขียนนิยายนักสืบฝีมือดี และแม่ ยูกิโกะ เป็นดาราสาวสวย แถมความเก่งกาจในการสืบสวนยังทำให้ชินอิจิเป็นที่คลั่งไคล้ของสาวๆ หลายคน นับว่าชีวิตของชินอิจิเป็นที่น่าอิจฉาของหนุ่มๆ เป็นอย่างยิ่งบรรดานิยายนักสืบจากทั่วโลกกองโตที่อยู่ในบ้านยังทำให้ชินอิจิซึมซับเอาความเก่งกาจของเหล่านักสืบทั้งหลายเข้าไป และยังทำให้เขารักที่จะสืบสวน แก้ปมปริศนาลึกลับ และฝันที่จะเป็นนักสืบตั้งแต่เด็กๆ สังเกตได้จากการที่เขาเล่นฟุตบอลเพื่อเป็นพื้นฐานนักสืบ แถมตอนเด็กๆ ชินอิจิยังชอบชวนรันไปเล่นนักสืบด้วยกัน นักสืบที่ชินอิจิชื่นชม เพราะว่าเล่นมาด้วยกันตั้งแต่เล็กๆ ชินอิจิจึงรู้สึกสนิทสนมกับรันมากพอที่จะล้อเล่นกับท่าคาราเต้ของรันได้ แต่ตอนนี้ความรู้สึกสนิทสนมคุ้นเคยก็ค่อยๆ เปลี่ยนไปอีกแนวหนึ่ง แต่ชินอิจิก็ไม่เคยบอกรันจริงๆ ว่าเขารู้สึกอย่างไรบ้าง จนหลังจากการ "หายตัวไป" ของชินอิจิ ชินอิจิ (ในร่างโคนัน) จึงได้เข้าใจถึงความรู้สึกที่แท้จริงของรัน...แต่ก็สายไปซะแหล่ว




คุโด้ ยูกิโกะ
อายุ                :ไม่มากไม่น้อย
ที่อยู่ปัจจุบัน   : ต่างประเทศ ( LA )
อาชีพ             : อดีตนักแสดง
ปัจจุบันเป็นผู้ช่วยของยูซากุ
        

                          
                                     ยูกิโกะเคยเป็นดาราสาวสวยที่ชายทั่วโลกคลั่งไคล้ แต่แล้ววันหนึ่งเมื่อเธอตกหลุมรักยูซากุ เธอก็ทิ้งทุกสิ่งในวงการมายา แล้วจากวงการไปแบบไม่หวนคืน ยูกิโกะให้กำเนิดลูกชายคนหนึ่งชื่อชินอิจิ และเมื่อชินอิจิอยู่ม. ต้น เธอก็บินตามสามีของเธอไปอยู่ต่างประเทศด้วยกัน แต่ถึงจะไม่ได้อยู่ดูแลลูกชายเธอก็เป็นห่วงเขามาก บางครั้งจะโทรฯมาหา บางครั้งก็บินกลับมาเยี่ยมเอง  



คุโด้ ยูซากุ
     พ่อของคุโด้ ชินอิจิเป็นนักเขียนนิยายนักสืบชื่อดังเรื่องที่โด่งดังที่สุดน่าจะเป็นเรื่อง  The Night Baron และก็น่าจะเพราะพ่อเป็นนักเขียนที่ทำให้ชินอิจิคลุกอยู่กับกองหนังสือนักสืบและเริ่มคลั่งไคล้โฮมในที่สุด







โมริ รัน
    
                      ลูกสาวของโมริ โคโกโร่และคาซึกิ เอริ  เป็นเพื่อนกับชินอิจิตั้งแต่เด็ก เก่งคาราเต้  มีทั้งความเข้มแข็งและอ่อนโยน  เคยสงสัยหลายครั้งว่าแท้ที่จริงโคนันคือชินอิจิ  รันเริ่มรู้สึกชอบชินอิจิตั้งแต่ไปปนิวยอร์กด้วยกันตอนอายุ16 ตั้งแต่พ่อแม่แยกทางกันเธอก็คอยดูแลโคโกโร่ และก็มีการติดต่อกับคิซากิบ้าง พยายามจะให้ทั้งสองคนคืนดีกันแต่ก็ไม่สำเร็จตั้งแต่ชินอิจิกลายเป็นโคนันรันก็กลายมาเป็นพี่เลี้ยงเด็กคอยดูแลบางครั้งเหมือนแม่กับลูกเลยนะ รัน เป็นลูกสาวของโคโกโร่ และแฟนสาวของชินอิชิ คุโด ด้วยฝีมือกังฟูของเธอ ทำให้เธอต้องรับหน้าที่ปกป้องโคนันจากเหล่าร้ายที่จ้องจะทำร้ายเขา






โมริ  โคโกโร่
      พ่อของโม รัน ฉายาของเขาคือโคโกโร่นิทรา เพราะเวลาคลี่คลายคดีจะเหมือนนอนหลับ(ก็หลับจริงๆอ่ะ) เป็นเหมือนทางผ่านของโคนันในการนำความจริงมาตีแผ่(ว่าไปก็น่าสงสาร)แต่โคโกโร่ก็ยินดีรับความชื่นชอบเวลาคนอื่นชมทั้งๆที่ไม่รู้ว่าตัวเองทำอะไรไปบ้างโคโกโร่มีนิสัยเจ้าชู้และสูบบุหรี่จัดมากชอบเล่นไพ่นกกระจอก แต่ก็มีข้อดีเหมือนกันคือเล่นยูโดเก่งและยิงปีได้แม่นทีเดียวนักร้องที่ชื่นชอบมากก็คือโอกิโนะ โยโกะ
โคโกโร่ โมยูริ เป็นนักสืบเอกชนที่ไม่ประสบความสำเร็จ และไม่เป็นที่สนใจเท่าใดนัก โคโกโรอนุญาติให้โคนันอาศัยอยู่กับเขาและช่วยเหลือเขาอย่างลับๆ
เบื้องหลังการทำงานของเขา โคโกโร่จะเป็นนักสืบที่ฉลาดคนหนึ่ง








      คิซากิ  เอริ
     
แม่ของโมริ รัน เป็นทนายความฉายาควีนแห่งนักกฎหมายเนื่องจากไม่เคยแพ้คดี เป็นคนที่ฉลาดซึ่งต่างกับโคโกโร่มากเอริทำอาหารไม่เก่ง ประมาณว่าบอกจะทำอาหารให้โคโกโร่ก็ขยาดแล้วแยกกันอยู่กับโคโกโร่ตอนรันอายุประมาณ7ปีแต่ยังไม่หย่าร้างกัน 






เอโดกาวา โคนัน

          
 เพราะความอยากรู้อยากเห็นเป็นเหตุทำให้ 
คุโด้ ชินอิจิ ถูกฆ่าโดยยาaptx4689แต่ผลมันกลับทำให้เขาเป็นเด็กแต่สมองยังคงเดิม และเขาก็เข้าไปอยู่บ้านของโมริ โคโกโร่ พ่อของโมริ รันเพื่อจะติดตามหาชายชุดดำจะได้กลับร่างเดิมแต่เนื่องจากเขาเป็นเด็กทำให้ไม่มีใครเชื่อถือจึงต้องอาศัยเครื่องมือจากดร.อากาสะใช้โคโกโร่เป็นทางผ่านของการคลี่คลายคดี โคนันเป็นหนึ่งในสมาชิกนักสืบเยาวชน โดยภาพรวมที่คนอื่นเห็นแล้วโคนันจะเป็นเด็กที่ฉลาดมีไหวพริบและมีความคิดเป็นผู้ใหญ่ คงจะมีแต่โคโกโร่ที่เห็นว่าโคนันเป็นตัวเกะกะ จะว่าไปแล้วโคนันนี่แหละท่าจะเป็นเทพเจ้าแห่งความโชคร้าย  


    


           
ไอ ไฮบาระ
                                     
                                                          เป็นคนที่ดูเงียบขรึม ไม่ค่อยเปิดใจกับใครเท่าไรตัวจริงคือมิยาโนะ ชิโฮหรือโค้ดเนมเชอร์รี่เป็นผู้ผลิตยาaptx4869(พัฒนาต่อ)เกิดแอนตี้ไม่ค้นคว้าเรื่องยาต่อเนื่องจากองค์กรนำยาที่เธอผลิตไปใช้กับคนโดยไม่บอกและสาเหตุที่สำคัญคือพี่สาวถูกคนในองค์กรฆ่าจึงถูกขังในห้องแก๊สดังนั้นเธอจึงตัดสินใจกินยาaptx4869 เพื่อที่จะฆ่าตัวตายแต่ร่างกายกลับกลายเป็นเด็กจึงหนีออกมาและได้รับการช่วยเหลือจากดร.อากาสะ ฮิโรชิตอนแรกเอโดกาวะ โคนันก็ยังไม่ไว้ใจเท่าไรนักแต่ตอนนี้ก็เริ่มไว้ใจแล้วและก็เป็นห่วงไฮบาระเหมือนกัน   

 

 

ข้อมูลส่วนตัว



โค้ดเนม: Sherry


ชื่อจริง: มิยาโนะ ชิโฮ


ปรากฏตัวครั้งแรก ไฟล์179(เล่ม18) นักเรียนใหม่


อายุ: 8ปี(อายุจริง 18ปี)


ที่อยู่: บ้านเลขที่22 หมู่2 เบกะซิตี๋ (บ้านดร.อากาสะ)


ครอบครัว: พ่อ มิยาโนะ อัทสึชิ


แม่ มิยาโนะ เอเลน่า


พี่สาว มิยาโนะ อาเคมิ (เสียชิวิตเเล้วโดนองค์กรที่เธออยู่ฆ่าตาย)(คดีชิงเงินพันล้าน)


ประวัติ


         ไฮบาระ ไอ (Haibara Ai) เธอคือนักเรียนใหม่ห้อง ป.1 B โรงเรียนประถมเทตัน แต่ตัวจริงของเธอ คือ มิยาโนะ ชิโฮ หรือ เชอรี่ (Sherry) เป็น code name ในองค์กรเดียวกับ พวกชายชุดดำ พ่อกับแม่เธอก็เป็นคน ในองค์กรแต่ดูเหมือนพวกท่านจะตาย เพราะอุบัติเหตุ หลังจากเธอเกิดได้ไม่ นาน เธอจึงถูกส่งไปเรียนที่อเมริกา ตั้งแต่เล็กตามคำสั่งขององค์กร ส่วนพี่สาวของเธอ มิยาโนะ อาเคมิ (ฮิโรตะ มาซามิ) อยู่ที่ญี่ปุ่นตาม เดิม พี่ของเธอยอมทำงานให้องค์กรเพื่อ แลกกับการดึงเธอออกมา เธอเป็นคนคิด ค้นยา APTX (อาโพท็อกซิน) 4869 ที่ ทำให้ชินอิจิกลายเป็นเด็ก ภายหลัง เธอ ไม่พอใจที่องค์กรเอายาที่ยังอยู่ในระหว่าง การทดลองไปใช้กับคนโดยไม่บอกก่อน แต่เหตุผลที่สำคัญยิ่งกว่า คือ พี่สาวเธอที่ ถูกฆ่าโดยฝีมือคนในองค์กร เธอถาม หลายครั้ง แต่องค์กรไม่ยอมบอกเหตุผล เธอก็เลยแอนตี้ไม่ยอมค้นคว้าเรื่อง ยาต่อจนกว่าจะได้รับคำตอบที่ชัดเจน และ ก็เป็นไปตามคาด เพราะเธอแข็งข้อกับ องค์กร ก็เลยถูกจับขังอยู่ในห้องเล็กใน ห้องทดลอง รอการพิจารณาโทษจากเบื้อง บน ไหนๆก็ต้องตายเธอจึงตัดสินใจกินยา APTX4869 ที่เธอแอบซ่อนไว้ แต่โชคดี แทนที่จะตายยานั้นกลับทำให้เธอกลายเป็น เด็ก (เช่นเดียวกับชินอิจิ) พอหลุดจากกุญแจมือได้ เธอก็หนี ออกมาทางช่องลมเล็กๆ เธอไม่รู้ว่าเธอ ควรจะไปไหน นึกขึ้นมาได้ว่าเวลาแบบนี้ คนที่น่าจะพึ่งพาได้ ก็คงมีแต่ชินอิจิเท่า นั้น เพราะคนที่ตกอยู่ในสภาพเดียวกัน น่าจะเข้าใจความรู้สึกของกันดีกว่าใคร จนด็อกเตอร์อากาสะมาเจอเธอนอนหมด สภาพ อยู่หน้าบ้านของชินอิจิจึงรับเลี้ยง ไว้ เพราะหากพวกชายชุดดำรู้ว่ายา APTX 4869 นี้ทำให้กลายเป็นเด็ก จะ แย่ทั้งตัวเธอและชินอิจิ รวมถึงคนรอบ ข้าง ของทั้งสองคน ที่มาของชื่อไฮบาระ ที่ด็อกเตอร์อากาสะกับเธอช่วยกันคิด เอามาจากชื่อนักสืบหญิง "ไฮ" ของ "ไฮบาระ" มาจาก "เกรย์" ของคลอเดีย เกรย์ ส่วน "ไอ" ก็มาจากตัวไอของ VI โวโนสกี้







           

     



 อายูมิ โยชิดะ
           
    
                   
หนึ่งในสมาชิกขบวนการนักสืบเยาวชนเป็นเด็กที่น่ารักมีเพื่อนชายชอบหลายคนเหมือนกันนะแต่อายูมิชอบเอโดกาวะ โคนัน   






         โคจิมะ  เก็นตะ
          หนึ่งในสมาชิกขบวนการนักสืบเยาวชนที่ยึดตำแหน่งหัวหน้าโดยการบังคับคนอื่นเอาเป็นเด็กที่ไม่คิดทำอะไรใจร้อนไปหน่อย แต่ข้อดีของเขาก็กินข้าวหมดจานไงเกนตะเองก็ชอบโยชิดะ อายูมิเหมือนกัน  




       
  สึบูราย่า  มิสึฮิโกะ
                                                  หนึ่งในสมาชิกขบวนการนักสืบเยาวชนที่ดูท่าจะมีหลักการและเหตุผลมากกว่าเด็กคนอื่น(หมายถึงที่เป็นเด็กจริงๆนะ)ชอบวิทยาศาสตร์มาก ตอนแรกมิทซึฮิโกะชอบโยชิดะ อายูมิแต่ตอนหลังรู้สึกว่าจะเริ่มชื่นชอบไฮบาระ ไอ



        
สารวัตรจูโซว เมกูเระ
      
               สารวัตรเมกุเระ (Inspector Megure)เป็นตำรวจที่พบกันมาตั้งแต่เล่ม1 เกลียดการใช้นกต่อที่สุด บ่อยครั้งที่คุโด้ ชินอิจิช่วยคลี่คลายคดีให้ สารวัตรเมกุเระเป็นตำรวจ ที่ไม่ค่อยมีความสามารถในการสืบสวนนัก เขาจึงมักจะต้องขอความช่วยเหลือจากชินอิชิเสมอๆ เมกุเระเป็นเจ้านายของโคโกโร่ และต้องช่วยกันในการไขปัญหาอาชญากรรมต่างๆ 





          
ซาโต้ มิวาโกะ
                                               
                       เป็นตำรวจหญิงที่ดูป๊อปปูล่ามากใครๆก็ชอบไปหมด เป็นคนฉลาด คล่องแคล่วว่องไว และเธอก็แปลกใจในความชาญฉลาดอันผิดวัยของโคนันและไฮบาระ พ่อของเธอเสียชีวิตในหน้าที่ตั้งแต่เธอยังเด็ก หลังจากนั้นเธอก็เจริญรอยตามผู้เป็นพ่อ มิวาโกะนับถือเมงูเระ จูโซเหมือนเป็นพ่อของเธออีกคน แล้วก็ดูๆว่าเธอจะมีใจให้วาตารุ ทาคางิอยู่ไม่น้อยเลย









วาตารุ ทาคาง
      เป็นตำรวจที่ดูแล้วสุภาพ อ่อนหวานแต่ไม่ได้ มีอะไรโดดเด่น เขาแอบชอบซาโต้ มิวาโกะอยู่







ฮัตโตริ เฮย์จิ
                           ฮัตโตริ เฮย์จิ     เคียวโกกุ มาโคโตะลูกชายของฮัตโตริ เฮย์โซ และอิเคนามิ ชิซูกะ เขาเป็นนักสืบมัธยมปลายเหมือนชินอิจิเล่นเคนโด้เก่ง ชอบนิยายสืบสวนของเอลารี่ ควีน เข้ามาโตเกียวเพื่อจะมาแข่งกับคุโด้ ชินอิจิ(เล่ม10) เขาก็เป็นคนหนึ่งที่รู้ตัวจริงของโคนัน(เล่ม13) และทั้งคู่ก็กลายมาเป็นเพื่อนซี้กันในที่สุด และเป็นแชมป์คาราเต้ เขาชอบซึซึกิ โซโนโกะครั้งหนึ่งโซโนโกะเกือบถูกฆ่าก็มีเขานี่แหละที่ช่วยไว้(เล่ม22)แล้วก็เหมือนว่าจะรู้ว่าใจตรงกันจริงๆก็เล่ม33ไปหาอ่านนะ  




ฮัตโตริ เฮย์โซ
                 พ่อของฮัตโตริ เฮย์จิ เป็นผู้บังคับการตำรวจโอซาก้า บางทีก็ดูเคร่งครึมน่ากลัวเหมือนกัน เป็นคนที่จริงจัง   




อิเคนามิ ชิซูกะ
                 แม่ของฮัตโตริ เฮย์จิ เป็นคนที่เก่งมีความสามารถสูงทีเดียวเข้ามาโตเกียว(เล่ม28)เพื่อทดสอบความสามารถของโคโกโร่และก็ได้ผลเป็นที่น่าพอใจแท้ที่จริงก็ฝีมือโคนันนั่นแหละ  




โทยามะ
                พ่อของโทยามะ คาซึอะเป็นผู้บังคับการตำรวจโอซาก้าเป็นเพื่อนรักของฮัตโตริ เฮย์โซ  





โทยามะ คาซึอะ           เพื่อนหญิงของเฮย์จิตั้งแต่สมัยเด็กมีความผูกพันกันด้วยกุญแจเหล็กคาซึฮะเก็บเศษกุญแจไว้ในเครื่องรางสองชิ้นชิ้นหนึ่งเก็บไว้กับตัวเองและและอีกชิ้นให้เฮย์จิติดตัวอยู่ เธอเชื่อเสมอว่าสิ่งนี้เป็นสิ่งที่คอยคุ้มครองเฮย์จิให้ปลอดภัย   




ซึซึกิ โซโนโกะ
                ลูกสาวคนที่สองของซึซึกิ ชิโรและโทโมโกะ แต่ก็เพื่อนรักของรันซึ่งดูก็ฐานะจะแตกต่าง โซโนโกะเป็นคนที่มีความมั่นใจสูง แล้วก็ชอบเที่ยวหาเพื่อน(ผู้ชาย)แล้วในที่สุดเธอก็ได้พบกับเคียวโกกุ มาโคโตะโซโนโกะชอบขนาดลงทุนเปลี่ยนมือถือใหม่เลยหละ   













ซึซึกิ ชิโร
              พ่อของซึซึกิ โซโนโกะและเป็นประธานของบริษัท นายทุนซึซึกิที่มีฐานะดีและมั่งคั่ง   







คุโรบะ ไคโตะ / จอมโจรคิด
                          คุโรบะ ไคโตลูกชายของนัก มายากลชื่อดังคุโรบะ ไทอิจิที่เกิดอุบัติเหตุตาย ระหว่างการแสดง ไคโตะได้เล่นมายากลตามที่พ่อของเขาสอน(เขาว่าเพื่อให้รู้ว่าพ่ออยู่ใกล้ๆ) วันหนึ่งเกิดข่าวจอมโจรคิดขึ้นหน้าหนังสือพิมพ์ขึ้นมาและเพื่อนสาวของไคโตะนาคาโมริ อาโอโกะบอกว่าไคโตะไม่มีทางสู้จอมโจรคิดได้พอกลับถึงบ้านไคโตะได้คิดถึงคำที่พ่อของเขาได้สอนไว"POKER FACE"ไคโตะ ลูกรู้จัก Poker Face มั้ยPoker น่ะ ไม่ว่าจะได้ไพ่ดี หรือจะได้ไพ่ไม่ดียังไง ก็จะไม่แสดงออกทางสีหน้ามายากลก็เหมือนกัน ถึงจะเล่นพลาดยังไง แต่จะให้ผู้ชมรู้ไม่ได้เด็ดขาด และแล้วเขาก็ได้หลงเข้าไปในห้องลับของพ่อเขาและได้รู้ว่าแท้ที่จริงแล้วพ่อของเขาคือจอมโจรคิด ไคโตะได้รู้ความจริงว่าพ่อของเขาถูกกลุ่มคนร้ายฆ่าตายเขาจึงออกตามหาฆาตกรที่ฆ่าพ่อของเขา ภายใต้คราบของจอมโจรคิด[ปัจจุบันออกถึงเล่ม3/ตอนพิเศษshounen34-35โกลเด้นอาย]  ลูกชายของคุโรบะ ไทอิจิและคุณนายคุโรบะนักเรียนมัธยมปลายมีไอคิวถึง400แต่ดันกลัวปลาของที่เขาชอบมากก็คือไอศครีมช็อคโกแลตเล่นสกีเก่งมากแต่สเก็ตน้ำแข็งไม่ได้เรื่องแต่ความสามารถทางมายากลของเขาไม่เป็นรองใครแน่เขาชื่นชมพ่อมาโดยตลอดและเล่นมายากลเสมอเพื่อจะได้คิดว่ามีพ่ออยู่ใกล้ๆ หลังจากพ่อตายไป 8ปี ไคโตะได้บังเอิญไปพบห้องลับของพ่อจึงได้รู้ว่าจริงๆแล้ว พ่อของเขาก็คือ จอมโจรคิด เขาได้รู้ว่าพ่อของเขาถูกฆ่าและต้องการจัดการกับพวกที่ฆ่าพ่อของตนจึงทำงานเป็นคิดในรุ่นต่อมาหลังจากที่จอมโจรคิดหายตัวไปนั้นอีก 8 ปีต่อมา เขาก็ปรากฏตัวขึ้นซึ่งแท้จริงจอมโจรคิดคนปัจจุบันก็คือคุโรบะ ไคโตะสาเหตุที่เขาทำนั้นก็เพื่อต้องการหาและจัดการคนร้ายที่ฆ่าพ่อของเขา   ตัวจริงของจอมโจรคิดก็คือ คุโรบะ โทอิจิคิดปรากฏตัวครั้งแรกที่ปารีสเมื่อ 18 ปีก่อน และได้หายสาปสูญไปถึง10 ปีมีข่าวลือว่าเขาตายไปแล้วซึ่งจอมโจรคิดคนนี้ก็ตายแล้วจริงๆเพราะอัญมณีที่ขโมยดันเป็นเป้าหมายของคนร้ายอีกกลุ่ม บางคนอาจจะสงสัยกับที่มาของตัวเลข1412อันที่จริงมันเป็นรหัสของจอมโจรผู้นี้ มีนักเขียนนิยายคนหนึ่งสนใจจอมโจรหมายเลข 1412 และบังเอิญทำเหล้าหกใส่ตัวเลข1412 จึงอ่านมันได้ว่าKID เขาสามารถปลอมตัวแลปลอมเสียงได้แนบเนียนมากและก็มีเรื่องแง้มๆมาว่าคนๆนี้เป็นแหละอาจารย์สอนการแปลงโฉมให้ยูกิโกะกับชารอน










ยิน - ว้อดก้า
                    องค์กรลึกลับที่แต่งกายด้วยสีดำมีอำนาจและเป็นเบื้องหลังของบุคคลสำคัญหลายคนทั่วโลกยีนเป็นบุคคลหนึ่งในองค์กรนี้ ท่าทางของเขาเยือกเย็นแฝงไปด้วยรอยยิ้มอันเย้ยหยัน เขาฆ่าคนอย่างเย็นชาและก็เป็นผู้ที่ฆ่า มิยาโนะ อาเคมิ(พี่ของมิยาโนะ ชิโฮ(ไฮบาระ ไอ)ซึ่งนั่นก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ชิโฮหรือโค้ดเนมsherryทรยศองค์กรและถูกยีนตามฆ่า)ยีนเป็นคนที่ฉลาดและมีความรอบคอบมากเหมาะสมแล้วที่เขาจะถูกวอดก้าเรียกว่าเป็นลูกพี่สิ่งที่น่าสงสัยคือยีน,เบลม็อทกับเชอร์รี่มีอะไรเกี่ยวข้องกันแน่?ส่วนวอดก้านั้นดูแล้วก็ไม่ค่อยมีความสำคัญเท่าไหร่ที่เห็นก็จะติดตามและช่วยงานของยีน  


 ศาสตราจารย์ ฮิโรชิ อากาสะ
                                                           ด็อกเตอร์อากาสะ เป็นนักวิทยาศาสตร์ที่ชอบประดิษฐ์เครื่องใม้เครื่องมือประหลาดๆ เขาเป็นทั้งเพื่อนและเพื่อนบ้านของชินอิชิ และยังเป็นคนเดียวที่รู้ความจริงเกี่ยวกับโคนัน และได้กลายมาเป็นผู้ประดิษฐ์อาวุธและเครื่องมือต่างๆ ให้กับโคนันเพื่อช่วยในการแก้ไขคดีต่างๆ อีกด้วย เป็นนักวิทยาศาสตรเพื่อนบ้านของคุโด้ ชินอิจิ  เขาคอยช่วย
เหลือโคนันทุกๆเรื่อง ตั้งแต่ชินอิจิกลายเป็นโคนัน
นอกจากนี้เครื่องมือที่ช่วยเหลือโคนันในการคลี่
                                                  คลายคดีก็ได้ ดร.นี่แหละประดิษฐ์ เราว่าก็เป็น
                                                  ดร.ที่เก่งเลยทีเดียว



อากิโนะ โยโกะ
      นักร้องซูปเปอร์สตาร์ที่โคโกโร่คลั่งไคล้มาก   







คุโด้ ชินอิจิ กับ มิยาโนะชิ โฮ( Codename: Cherry ) หรือ เอโดงาวะ โคนัน กับ ไฮบาระ ไอ


อยากให้เป็นเพื่อนกันตลอดไป ชอบ ไฮบาระด้วย โคนัน น่าจะคู่กับ ไฮบาระ ไอ มากกว่า โมริ รันนะ

ถึงจะดูเงียบขรึม แต่ก็เท่ดีนะ ตอน ผู้หญิงที่มาจากองค์กรชุดดำหน่ะ เท่ดี ยิงปืนได้ เท่ชะมัดเลยนะเนี่ย

ฝากมาให้ดู

ความเป็นมาของโดเรม่อน.



Doraemon : โดเรม่อน
โดเรม่อน หรือโดราเอม่อน เป็นแมวหุ่นยนต์ในโลกอนาคต ยุคศตวรรษที่ 22 เกิดวันที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2655 มีน้ำหนัก 129.5 กก. ความสูง 129.3 ซม. กระโดดได้สูง 129.3 ซม. และยังวิ่งได้เร็วถึง 129.3 กม. / ชม. ลักษณะตัวอ้วนกลมสีน้ำเงิน ไม่มีใบหู เนื่องจากถูกหนูกิน ไม่มีนิ้วมือ มีกระดิ่งห้อยคอสีเหลือง มีหนวดหกเส้น มีกระเป๋าหน้าสำหรับเก็บของวิเศษ สารพัดอย่างที่สุดยอด อาหารที่ชอบที่สุดคือ แป้งทอด (โดรายากิ) สิ่งที่กลัวที่สุดคือ หนู

Nobita : โนบิตะ
โนบิตะ เป็นตัวละครหลักของเรื่อง เป็นเด็กผู้ชายขี้แยคนนึง เป็นคนไม่เอาถ่าน อ่อนแอ ไม่เคยพึ่งพาตนเอง เรียนหนังสือไม่เก่ง สอบได้ 0 บ่อยๆ มาโรงเรียนสายประจำ ถูกทำโทษบ่อยครั้ง ถือว่าเป็นตัวละครที่แย่มากๆ โนบิตะหลงรักชิซูกะ ซึ่งอยู่ในวัยเดียวกัน มีความหวังที่จะได้แต่งงานด้วยเมื่อเขาโตขึ้น แต่ก็มักจะมีอุปสรรค และมีคู่แข่งหลายคนเนื่องจากชิซูกะ เป็นเด็กน่ารัก และด้วยความอ่อนแอของโนบิตะเอง แต่โนบิตะ ได้เพื่อนรักคือโดเรม่อนคอยช่วยเหลือ ทำให้เขามีความมั่นใจมากขึ้น

'Shizuka : ชิซูกะ
ชิซูกะ เป็นนางเอกของเรื่อง จัดว่าเป็นตัวละครที่น่ารักมาก เป็นที่หมายปองของเด็กทั่วไป รวมทั้งโนบิตะด้วย ซึ่งเขาหวังจะแต่งงานด้วยในอนาคต ชิซูกะเป็นคนที่ตรงข้ามกับโนบิตะโดยสิ้นเชิง เธอเป็นคนเรียนเก่ง สอบได้คะแนนดีมาก ชอบดนตรี และสิ่งที่ชอบมากที่สุดการได้อาบน้ำ ในอนาคตชิซูกะได้แต่งงานกับโนบิตะจริงๆ แต่โนบิตะในอนาคต เป็นโนบิตะที่เป็นผู้ใหญ่มีความรับผิดชอบ และเป็นคนดีจริงๆ สำหรับชิซูกะ
'Zuneo : ซูเนโอะ
ซูเนโอะ เป็นตัวละครที่ถูกออกแบบให้มีลักษณะเจ้าเล่ห์ คล้ายๆ สุนัขจิ้งจอก ปากแหลม ชอบยุให้ไจแอนท์ รังแกโนบิตะ ซูเนโอะเป็นคนที่ชอบคุยโวโอ้อวด เนื่องจากเป็นคนมีฐานะร่ำรวย สิ่งที่เพื่อนๆ อยากได้ เขามีครบทุกอย่าง มักมีของแพงๆ มาอวดเพื่อนๆ มีญาติพี่น้องที่ค่อนข้างฐานะดี มีชื่อเสียง มักจะหาเรื่องแกล้งโนบิตะบ่อยๆ เนื่องจากเขาเองก็หลงรักชิซูกะด้วยเหมือนกัน
Dekizugi : เดคิซูกิ ไจแอน
เดคิซูกิ เป็นตัวละครที่สร้างขึ้นมาเพื่อให้ตรงกันข้ามกับโนบิตะโดยสิ้นเชิง รูปหล่อ เรียนเก่ง ขยัน อุปนิสัยดี เป็นที่หมายปองของเด็กหญิงทั่วไป เดคิซูกิ ชอบมาติวหนังสือให้กับชิซูกะเสมอ ทำให้โนบิตะต้องอิจฉา นอกจากนี้เขายังเป็นนักกีฬาและเป็นที่รักของคนทั่วไปอีกด้วย แต่บทบาทของเขาจะน้อยกว่าโนบิตะมาก
Dorami : โดเรมี
โดเรมี หุ่นยนต์น้องสาวของโดเรม่อน โดเรมีถูกสร้างขึ้นมาทีหลังโดเรม่อน ถือว่าเป็นรุ่นใหม่กว่า ทำให้มีประสิทธิภาพมากกว่าโดเรม่อน โดเรมี จะมีตัวสีเหลือ หูสีแดง มีกระเป๋าเก็บของวิเศษเหมือนโดเรม่อน แต่มีประสิทธิภาพมากกว่า โดเรมีจะอยู่ในโลกอนาคตมากกว่า ไม่ค่อยปรากฏในโลกปัจจุบัน ยกเว้นในกรณีเหตุการณ์คับขัน ที่โดเรม่อนไม่สามารถแก้ไขได้ โดเรมีก็จะมาคอยช่วยเหลือเสมอๆ
ประวัติอย่างละเอียด

Doraemon : โดเรม่อน
วันที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2512 เป็นวันที่เริ่มต้นพิมพ์หนังสือการ์ตูนเรื่อง "Doraemon" ในประเทศญี่ปุ่น โดยจินตนาการของนักเขียนชาวญี่ปุ่นสองคน ที่ใช้นามปากการ่วมกัน ว่า ฟูจิโกะ ฟุจิโอะ โดยตัวการ์ตูนจะเป็นเรื่องราวของหุ่นยนต์ในโลกอนาคต ศตวรรษที่ 22 ซึ่งจินตนาการให้เป็นแมวตัวกลมๆ มีความสามารถพิเศษ และกระเป๋าวิเศษที่บรรจุของมากมาย จุดประสงค์เพื่อช่วยเหลือเด็กผู้ชาย ที่ขี้แย ไม่เอาไหน คนนึง และสอดแทรกคติธรรมเข้าไป ทำให้การ์ตูนเรื่องนี้ได้รับความนิยมอย่างมาก

ชื่อโดราเอมอน มาจากคำว่า...โดราเนโกะ แปลว่า แมวหลงทาง เอมอน เป็นคำเรียกต่อท้ายชื่อของเด็กชายในสมัยก่อน โดราเอมอน เกิดขึ้นโดยความบังเอิญในขณะที่ 2 นักเขียนการ์ตูนชื่อฮิโรชิ ฟูจิโมโต และโมโตโอะ อาบิโกะขณะที่กำลังจินตนาการ สร้างการ์ตูนตัวใหม่ด้วยความลำบาก และกดดัน เนื่องจากเหลือเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมงจะถึงกำหนดส่งต้นฉบับ บังเอิญเหลือบเห็นตุ๊กตาของลูกสาว ทำให้นึกต่อไปถึงตุ๊กตา แมว ล้มลุก และกลายเป็นโดราเอมอนในที่สุด

การ์ตูนเรื่องโดเรม่อน มีจุดเด่นในเรื่องของจินตนาการ สิ่งประดิษฐ์ต่างๆ ในโลกอนาคต ที่ผู้อ่านทั่วไปคาดไม่ถึง จากปลายปากกาของ อ. ทั้งสอง ที่ถ่ายทอดออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม พร้อมทั้งสอดแทรกศิลปะวัฒนธรรมของญี่ปุ่นเข้าไปในตัวการ์ตูน แบ่งลักษณะนิสัยของคนออกมาในแต่คาแร็คเตอร์ได้อย่างลงตัว เหมือนกับนำเอาชีวิตจริงของผู้อ่านเข้าไปเกี่ยวข้องกับการ์ตูนด้วย ดังนั้นการ์ตูนเรื่องนี้จึงเป็นที่นิยม อ่านได้ทุกเพศทุกวัย จนทำให้มีการพิมพ์การ์ตูนเรื่องนี้มากมาย สามารถขายได้ถึง 100 ล้านเล่มใน ญี่ปุ่น และแปลเป็นภาษาต่างๆ ทั่วโลก ถึง 9 ภาษา รวมทั้งภาษาไทยอีกด้วย นอกจากการ์ตูนแล้ว โดเรม่อน ถูกสร้างออกมาเป็นภาพยนต์ทางจอเงิน และจอแก้วมากมายหลายตอน โดยฉายครั้งแรกที่ฮ่องกง เมื่อปี พ.ศ. 2524 และฉายที่ประเทศไทยเราครั้งแรก วันที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2525

ของวิเศษที่โดเรม่อนใช้บ่อยๆ

คอปเตอร์ไม้ไผ่
คัปเตอร์ไม้ไผ่ ทำจากไม้ไผ่ ชื่อภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า "Take (ไม้ไผ่) Koputa (คัปเตอร์) " เมื่อจะใช้ก็นำไปวางไว้บนหัวจะทำให้สามารถบินได้ เป็นเครื่องมือที่โนบิตะและโดราเอม่อนใช้เกือบทุกตอนเพราะใช้งานง่ายและไม่ค่อยมีอันตราย สามารถบินได้ในระยะทาง 600 กม. และความเร็วประมาณ 80 กม.ต่อชม. เช่นสามารถใช้บินจากโตเกียวถึงโอซาก้าในเวลาประมาณครึ่งชม.
ประตูสารพัดสถานที่
หากเปิดประตูนี้ออกแล้วพูดชื่อว่าจะไปที่ไหนประตูก็จะเปิดออกไปยังสถานที่นั่นทันที ประตูเป็นประตูไม้ในแบบโบราณ เป็นเครื่องมือที่สะดวกสบายที่สุด ของวิเศษชิ้นนี้ถูกใช้บ่อยๆ ทำให้เราได้เห็นสถานที่ต่างๆ ในการ์ตูนได้มากมายหลายที่ ตามจินตนาการ
ไฟฉายย่อส่วน
รูปร่าง และวิธีใช้คล้าย ๆ กับไฟฉายทั่ว ๆ ไป ใช้สำหรับย่อสิ่งของหรือขยายสิ่งของให้ใหญ่หรือเล็กก็ได้ มีประโยชน์มาก และโดเรม่อนก็นำมาใช้บ่อยๆ อีกด้วย

ไทม์แมชชีน
เครื่องทาม์แม็คชีนเป็นพาหนะที่สามารถใช้เดินทางย้อนเวลาไปอดีต หรือ เดินทางข้ามเวลาไปสู่อนาคตได้ โดยทางเข้าและทางออกจะอยู่ในลิ้นชักโต๊ะในห้องนอนของโนบิตะ โดราเอม่อนและเพื่อนๆ สามารถใช้เดินทางไปอนาคตได้ แต่ว่าเครื่องนี้ก็ไปส่งผิดที่ผิดเวลาบ่อย ๆ
ตอนจบ โดเรมอนว่ากันว่ามีสองแบบ

วันหนึ่ง ซึ่งเป็นวันธรรมดาทั่ว ๆ ไป โนบิตะกลับมาจาก โรงเรียน ขึ้นไปยังห้องนอน และพบโดเรมอนกำลังนอน หลับอยู่เหมือนปกติ นี่ ! โดเรมอน ตื่นมาเล่นกันเถอะ แต่โดเรมอนก็ยังหลับอยู่ โนบิตะคิดว่าโดเรมอนคงเหนื่อยมาก จึงปลุกไม่ตื่น ดังนั้นโนบิตะจึงออกไปเล่นกับ ชิซูกะ และ เพื่อนคนอื่น หลังจากนั้นไม่กี่ชั่วโมงโนบิตะกลับมายังบ้าน แต่โดเรมอนก็ยังหลับอยู่ โนบิตะรู้สึกแปลกใจ และพยายามปลุกโดเรมอนแต่ก็ไม่ปฎิกริยาใด ๆ ทั้งสิ้นจากโดเรมอน โนบิตะเริ่มรู้สึกกลัวและเหนื่อยที่จะปลุกโดเรมอน โนบิตะพยายามทำทุกอย่างแต่โดเรมอนก็ไม่ยอมตื่น โนบิตะรู้แล้วว่า มีบางอย่างเปลี่ยนแปลงไปและมันไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน โนบิตะเริ่มร้องไห้โฮแต่โดเรมอนก็ไม่ขยับเลยแม้แต่นิดเดียว และแล้วโนบิตะก็คิดอะไรขึ้นมาได้ 1 อย่าง และกระโดดเข้าไปในโต๊ะที่มีไทม์แมชชีน และ โนบิตะก็ได้ไปในอนาคตเพื่อที่จะพบโดเรมีน้องสาวของโดเรมอน โนบิตะขอร้องให้โดเรมีช่วยและฝืนใจโดเรมีให้กลับมาในปี 1998 หลังจากที่มาถึง โดเรมีก็ได้เข้าไปตรวจสอบในตัวโดเรมอนว่าเกิดอะไรขึ้นหลังจากนั้นไม่กี่นาที โดเรมีก็บอกโนบิตะว่า แบตเตอร์รี่หมดโนบิตะถูกทำให้เชื่อว่าเป็นเช่นนั้นและถามโดเรมีเพื่อความแน่ใจอีกครั้งว่า
แบตเตอรี่หมดหรือ ? อย่างงั้นโดเรมอนก็ไม่เป็นไรสิ ใช่ไหม? ถ้างั้น ช่วยเปลี่ยยแบตเตอร์รี่ใหม่ให้หน่อยทำให้โดเรมอนกลับมามีชีวิตเหมือนเดิม โดเรมีมองมาที่โนบิตะ และสั่นหน้า แล้วพูดว่าฉันควรจะเปลี่ยนแบตเตอร์รี่ใหม่หรือ โนบิตะจึงถามกลับว่า ทำไมโดเรมีจึงพูดอย่างนั้น โดเรมีจึงตอบ ว่า แบตเตอร์รี่หลักของโดเรมอนอยู่ตรงนี้ ใกล้กับกระเป๋าและก็ถูกใช้หมดแล้ว แต่จริง ๆ แล้วก็ยังมีแบตเตอร์รี่สำรองอยู่ที่หูแต่อย่างทีรู้ ๆ กันอยู่ว่า หูทั้งสองข้างของโดเรมอนถูกหนูกินไปเมื่อหลายปีก่อนดังนั้นตอนนี้จึงไม่มีแบตเตอรรี่สำรอง โนบิตะ จึงถามโดเรมี เธอหมายความว่าไงน่ะ ฉันหมายความว่า ถ้าฉันเปลี่ยนแบตเตอร์รี่ใหม่โดเรมอนจะสูญเสียความจงจำทั้งหมดเกี่ยวกับโนบิตะตลอดกาล แล้วฉันควรจะเปลี่ยนหรือ อะไรนะ โนบิตะปิดตาแล้วก็ร้องไห้ แต่หลังจากนั้นไม่กี่นาที โนบิตะก็หยุดร้อง และพูดเบา ๆ กับโดเรมีว่า ขอบคุณมาก ผมจะจัดการส่วนที่เหลือเอง เธอควรจะกลับไปยังอนาคตได้แล้วโดเรมีไม่รู้จะทำอย่างไร แต่ก็เข้าไปกอดโนบิตะ แล้วโดเรมีก็ลาโนบิตะกลับบ้าน หลังจากที่โดเรมีกลับไปแล้ว โนบิตะก็อุ้มโดเรมอนไปไว้บนชั้น

---- หลายปีผ่านไป------------

ในปี 2010 โนบิตะโตเป็นผู้ใหญ่ ตั้งแต่วันนั้น โนบิตะก็เปลี่ยนแปลงและเรียนหนังสืออย่างหนัก และก็ไม่เคยร้องไห้อีก และเขาอยู่โดยไม่มีโดเรมอนโนบิตะบอกชิซูกะ และ เพื่อนๆ ทั้งหลายว่า โดเรมอนต้องกลับไปยังอนาคตและไม่สามารถมา พบเพื่อน ๆ ทั้งหลายได้อีกแล้วชิซูกะประทับใจในตัวโนบิตะที่มีความเปลี่ยนแปลง และต่างจากเมื่อ 10 ปีก่อนอย่างสิ้นเชิงและทั้งสองก็รักกัน แล้วแต่งงานกัน โนบิตะเป็นนักวิทยาศาสตร์และทำห้องของเขาเป็นห้องทดลอง และเขาก็ได้ตั้งใจทำงานอย่างหนักในงานของเขาและห้ามไม่ให้ชิซูกะ เข้ามายังห้องทดลอง และแล้ววันหนึ่งโนบิตะก็เรียกให้ชิซูกะเข้ามายังห้องทดลอง และมันเป็นครั้งแรกที่ชิซูกะเข้ามายังห้องของสามีของเธอในขณะที่เธอเข้ามายังห้อง เธอถึงกับอึ้งจนพูดอะไรไม่ออกเธอเห็นโดเรมอนเพื่อนเก่าของเธอที่เคยเล่นด้วยกัน ในตอนที่ยังเป็นเด็กโดเรมอนไม่ขยับ และ เหมือนกับกำลังหลับ ดูนี่! ชิซูกะผมจะเสียบปลั๊กแล้วนะโนบิตะเปิดสวิตช์หลัก บนตัวของโดเรมอน โดเรมอนค่อย ๆ ลืมตาขึ้นเป็นเป็นช่วงที่ ทำให้เข้าใจได้ว่าใครเป็นผู้ที่คิดค้นโดเรมอนขึ้นมาซึ่งก็คือโนบิตะนั่นเอง เขาเรียนอย่างหนัก เพื่อที่ว่าจะได้พบ และพูดคุย กับโดเรมอนเพื่อนรักของเขา ที่มารู้จักกัน แล้วก็จากไป

โนบิตะเป็นผู้หนื่งที่ได้สร้างโดเรมอนขึ้นมาเขาคิดค้นโปรแกรม และโครงสร้างทั้งหลาย สำหรับหุ่นยนต์โดเรมอน โนบิตะและชิซูกะร้องไห้อย่างเงียบ ๆ โดเรมอนก็ลืมตาขี้น และก็พูดว่า โนบิตะนายทำการบ้านเสร็จแล้วหรือ มันเหมือนกับมี ก้อนเมฆสีขาวก้อนเดิม อยู่บนท้องฟ้าช่างเหมือนกับเวลาแห่งความทรงจำในอดีต ที่พวกเขามีร่วมกัน
ตอนจบของโดเรม่อน แบบที่ 2
ตอนจบของเรื่องที่อาจารย์ ฟูจิโกะ และฟูจิโอะร่างไว้เป็น ตอนจบจริงๆของ โดเรมอนไม่ใช่ โดเรมอน กลับอนาคตหรอก... จริงๆแล้วของ original ที่ อ.ฟุจิโกะ เขียนเป็น story board ไว้ก่อนที่จะอ.จากไป วันหนึ่ง ฉากในโรงพยาบาล โนบิตะตื่นขึ้นมา และเจอพ่อกับแม่และเพื่อนๆ ครบทุกคนยืนอยู่รอบเตียง แล้วโนบิตะก็ถามถึงโดเรมอน ทุกคนกลับปฎิเสธว่า ไม่รู้จักและบอกโนบิตะว่า โนบิตะหลับมานานเป็นปีแล้วเนื่องจากไม่สบาย และโนบิตะก็นึกย้อนถึงเรื่องราวเกี่ยวกับโดเรมอน ทั้งการผจญภัยต่างๆ ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นเพียงความฝันเท่านั้นโดเรมอน เซวาสึ โดเรมี ล้วนเป็น ความฝันของเขาทั้งสิ้น โนบิตะเป็นเด็กที่ไม่แข็งแรง และไม่มีเพื่อนรักที่ จะอยู่ด้วย เขาต้องนอนโรงพยาบาลตลอดเวลาและเขาก็หลับไป ฉากต่อมา เริ่มที่ พ่อแม่และเพื่อนๆของโนบิตะร้องไห้กันอยู่ในงานศพของ โนบิตะ..เขาจากไปก่อนวัยอันควร..และเรื่องราวทุกอย่างก็จบลง ที่โนบิตะฝันถึงโดเรมอนและอนาคตนั้นเป็นเพราะเขารู้ดีว่า เขาจะต้อง ตายในอีกไม่นาน เขาจึงอยากที่จะมีอนาคตมีเพื่อนรัก มีการผจญภัยสนุกสนาน แต่ฝันของเขาก็ไม่มีวันเป็นจริง... ตลอดไป......
ตอนนี้เป็นเพียงตอนที่ยังไม่ตกลงว่าจะออกพิมพ์หรือทำเป็นภาพยนตร์การ์ตูน แต่อย่างใด เพราะคงไม่มีใครอยากให้จบแบบนี้
ประวัติผู้แต่งประวัติย่อของ อ. ฟูจิโกะ ฟุจิโอะ
ฟูจิโกะ ฟูจิโอะ เป็นนามปากการ่วม ของ อ. ทั้งสองท่านที่เขียนการ์ตูนเรื่องนี้ คือ

อ. ฟูจิโมโตะ ฮิโรชิ เกิด 1 ธันวาคม 2476 ณ เมือง ทาคาโอกะ โทยามะ
อ. อาบิโกะ โมโตโอะ เกิด 10 มีนาคม 2477 ณ เมือง ไฮโอมิ โทยามะ
อาจารย์ทั้งสอง รู้จักกันมาตั้งแต่เรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ซึ่งทั้งสองมีความสนใจในงานเขียนการ์ตูนมาก และได้เขียนการ์ตูนในงานส่งอาจารย์ร่วมกัน จึงกระทั่งถึงชั้นมัธยมศึกษา

ในปีพ.ศ.2495 ท่านทั้งสองได้เปิดตัวหนังสือการ์ตูนเล่มแรกชื่อ "เทนชิโนะ ทามาซัง" สู่สาธารณะชน และเริ่มใช้นามปากกา "ฟูจิโกะ ฟูจิโอะ"
ในปีพ.ศ.2497 ได้ย้ายไปอยู่ที่กรุงโตเกียว หลังจากนั้น 2 ปี ท่านทั้งสองก็ได้ร่วมกับนักเขียนการ์ตูนท่านอื่น (ฟูจิโอะ อาคัสซูกะ และ ไซโอทาโร่ อีชิโมริ)เปิดบริษัทชื่อ 'ชินแมงกาโตะ' หลังจากนั้นพวกเขาก็เริ่ม ทำการ์ตูนเคลื่อนไหว และ ได้จัดทำ 'สตูดิโอ-ซีโร่'
ในปีพ.ศ.2506 และในปีต่อมา การ์ตูนเรื่อง "โอเบเกะโนะ คิวทาโร่ (ผีน้อยคิวทาโร่)"ที่ใช้นามปากกา "ฟูจิโกะ ฟูจิโอะ" ก็มีชื่อเสียง และ เป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลาย
ท่านอาจารย์ได้เขียนการ์ตูนอย่างจริงจัง จนในที่สุดก็เป็นที่รู้จักกันไปทั้วโลก และ ได้รับรางวัล หลายรางวัลจากการ์ตูนของแก ตัวอย่างการ์ตูนที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายได้แก่ "นินจาฮาโตริ, ปาแมน, ยูเมโบชิ เดงกะ, มาทาโระกาคูรุ, ศาสตราจารย์กอล์เฟอร์ ซารุ และ โดเรม่มอน

ประมาณสิ้นปีพ.ศ.2530 ท่านอาจารย์ทั้งสองก็ได้แยกตัวอิสระและใช้นามปากกาของตัวเอง โดยอาจารย์อ.อาบิโกะ โมโตโอะ ได้ใช้นามปากกา Fujiko Fujio (A) ส่วนอาจารย์ฟูจิโมโตะ ฮิโรชิ ได้เปลี่ยนมาใช้ Fujiko Fujio(F) และ ภายหลังเปลี่ยนมาใช้ Fujiko F. Fujio

ท่านอาจารย์อ.อาบิโกะ โมโตโอะ ได้เสียชีวิต ในปีพ.ศ.2531
ส่วนท่านอาจารย์ฟูจิโมโตะ ฮิโรชิ ได้เสียชีวิต ในวันที่ 23 กันยายน พ.ศ.2539

เนื้อเพลง โดเรมอนนะ
เนื้อเพลงภาษาญี่ปุ่น
คอนนะโคะโตะอิอินะ เดะคิตะระอิอินะ
อันนะยูเมะคอนนะยูเมะ อิพพะอิอะรูเคะโด
มินนะมินนะมินอินะ คะนะเอะเตะคุเระรุ
ฟูชิงินะพกเก็ตโตะดะ คะนะอิเตะคูเระรู
โซราจิยูนิ โทบิตะอินะ
ฮาอิ ทาเคะคอปต้า
อัง อัง อัง ตดเตะโมะดาอิซุคิ โดราเอ..มอนน...
เนื้อเพลงแปลเป็นภาษาไทย
เรื่องอย่างนี้ดีจังเลย ถ้าทำได้ละก็ยอดไปเลยนะ
ความฝันเหล่านี้ เหล่านั้น มีตั้งเยอะตั้งแยะแน่ะ
ทุกคนก็เป็นคนดี มาเติมฝันเหล่านั้นให้เต็ม
ด้วยกระเป๋าวิเศษนี้ มาช่วยเติมฝัน
อยากบินได้อย่างอิสระบนท้องฟ้าจังเลยนะ
ไฮ้ { นี่ไง ( เสียงของโดเรม่อน ) } คอปเตอร์ไม้ไผ่
อัง อัง อัง ชอบมากๆ เลยล่ะ โดราเอม่อน
โดเรามอนชุดพิเศษ

>> ไดโนเสาร์ของโนบิตะ

>> บุกดินแดนมหัศจรรย์

>> ตะลุยปราสาทใต้สมุทร

>> ตะลุยแดนปีศาจ

>> สงครามอวกาศ

>> ผจญกองทัพมนุษย์เหล็ก

>> เผชิญอัศวินไดโนเสาร์

>> ตะลุยดาวต่างมิติ
เหตุที่โดเรมอนกลัวหนู

โดเรม่อนเกิดเมื่อวันที่ 3 กันยายน 2112 ที่โรงงานหุ่นยนต์ มีตัวสีเหลืองแต่แล้ว วันหนึ่งก็ถูกหนูกัดหู ก็เปลี่ยนสีอย่างที่เราเห็นกันในปัจจุบัน โดราเอมอนก็กลัวหนูตั้งแต่นั้นมา
'
ต้นคิด โดเรมอน

วันหนึ่งในปี พ.ศ. 2512 อาจารย์ฟูจิโมโตะ ฮิโรชิ ต้องเขียนการ์ตูนเรื่องใหม่ ดังนั้นท่านจึง ได้ไปปรึกษากับ อาจารย์โมโตโอะ อาบิโกะ ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง พอกลับบ้าน อาจารย์ฟูจิโมโตะ ก็ยังคิดไม่ได้ว่าจะเขียนการ์ตูนอะไรดี ตอนนั้น...เนื่องจากใกล้เวลาเที่ยงคืนแล้ว ท่านง่วงและเผลอหลับไป



เช้าวันต่อมา...อาจารย์ฟูจิโมโตะถูกปลุกด้วยแมวที่บ้านและนึกขึ้นได้ว่ายังไม่ได้คิดการ์ตูนเรื่องใหม่ อาจารย์รีบวิ่งลงบันไดไปชั้นล่าง แต่ก็สะดุดอะไรบ้างอย่าง อาจารย์ฟูจิโมโตะสะดุดตุ๊กตาของลูกสาวของเขานั่นเอง และนั่นทำให้อาจารย์เกิดไอเดีย โดยนำแมว และ ตุ๊กตา มาผสมกัน



ในที่สุด อาจารย์ฟูจิโมโตะก็คิดออกว่า การ์ตูนเรื่องใหม่ที่จะเขียนเป็น เรื่องอะไร จากนั้นไอเดียเริ่มพุ่งกระฉูด โนบิตะและตัวการ์ตูนอื่นๆก็เริ่มตามมา ในที่สุดโดเรม่อนก็กลายเป็นการ์ตูนยอดฮิตของเด็กๆ